สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
แชร์หน้านี้ไปที่ไลน์หรือเฟสบุ๊คได้ทันที คลิ๊กที่ปุ่ม . Share
ดู: 6983|ตอบ: 13
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[โรค] แพะกินใบมันสำปะหลังสด [คัดลอกลิงก์]

Rank: 4Rank: 4

จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
กระทู้
11
โพสต์
86

เมื่อสักครู่ อิฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสมาชิกในบอร์ด สอบถามถึงเรื่องแพะกินใบมันสำปะหลังสด

อิฉันเป็นสัตวแพทย์ แต่ไม่ได้รักษาแพะ แค่เคยเรียน เคยอ่านหนังสือไปสอบนานนนนน มาแล้ว ก็เลยพอจะรู้นิดๆ หน่อยๆ เอง
อิฉันจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนเรียนมาว่า..กินมากไม่ได้ ถึงตาย
จึงค้นตำรามาตอบให้ที่นี่ นะคะ

ใบมันสำปะหลัง และหัวมันด้วย ถ้าจะให้ปศุสัตว์(วัวควายแพะแกะ) กิน ควรตากแห้งเสียก่อน เนื่องจากในใบ/หัวสด มีสารพิษคือ กรดไฮโดรไซยานิก

ถ้ากินไปแล้ว ทำไงดี
ตอบ กินไม่มาก ก็อาจมีอาการท้องอืด กระวนกระวายบ้างนิดหน่อย วิงเวียน คลื่นไส้ เป็นลม แล้วค่อยๆ ทุเลาลงเมื่อสารพิษค่อยๆ ถูกกำจัดจากลำไส้
แต่ถ้ากินมาก ก็ถึงตายได้

วิธีแก้พิษ
ตอบ เนื่องจากอาการเกิดขึ้นเมื่อสารพิษเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ดังนั้น ตอบตรงๆ ก็คือ แก้พิษโดยฉีดยาต้านพิษเข้าเส้นเลือด (สารละลายพวกโซเดียม ไทโอซัลเฟต 20% ร่วมกับโซเดียมไนไตรท์ 20% ในอัตราส่วน 3:1 ในขนาด 4 ซี.ซี./นํ้าหนัก 50 กิโลกรัม)....ให้สัตวแพทย์ฉีดให้ละกันนะคะ

ตัวที่ยังไม่แสดงอาการ ป้องกันได้ไหม
ตอบ (กำปั้นทุบดิน) อย่าให้ไปกินอีก ๕๕๕๕(พิมพ์ไป หัวเราะไป)
(จริงจัง) กินไปแล้ว แต่ยังไม่มีอาการ ก็อาจแค่ท้องอืด ซึม ตามระดับการกินเข้าไป กินน้อย ก็ไม่เป็นไร ร่างกายจัดการได้
แต่ถ้ากินมาก...เดี๋ยวก็งานเข้าละ เตรียมหมอ เตรียมยาได้เลย

ที่จริง
มันสำปะหลังเป็นพืชอาหารสัตว์ที่ดี มีผลวิจัยรับรองว่าทำให้ปศุสัตว์ที่เลี้ยงมีผลผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่าไม่ได้ใช้
แต่ต้องทำลายพิษจากมันฯ เสียก่อน


การลดความเป็นพิษในหัวมันสำปะหลังก่อนที่จะนำมารับประทาน สามารถทำได้หลายวิธีคือ
    1. ปอกเปลือก เนื่องจากสารกลูโคไซด์จะสะสมอยู่ในเปลือกมากกว่า ในเนื้อมันสำปะหลัง การปอกเปลือกจึงเป็นการกำจัดสารดังกล่าวได้ดีที่สุด
    2. ล้างน้ำและแช่น้ำ เนื่องจากสารกลูโคไซด์ละลายน้ำได้ดีมาก ดังนั้น การล้างน้ำและแช่น้ำนานๆ กลูโคไซด์จะละลายไปกับน้ำ
    3.การหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และตากแดดให้แห้ง ในกระบวนการทำมันเสัน
    4. การใช้ความร้อน เนื่องจากกลูโคไซด์สลายตัวได้ดีมากที่อุณหภูมิ 150 ํซ. ดังนั้นเมื่อนำหัวมันสำปะหลังมาทำให้ร้อนจะด้วยวิธีอบ นึ่ง ต้ม ความเป็นพิษจะหมดไป
    5. การหมักดองหัวมันสำปะหลัง ทำให้เกิดกรดอินทรีย์ขึ้น ซึ่งมีผล ในการไฮโดรไลส์สารกลูโคไซด์ที่มีในหัวมัน ทำให้เกิดแก๊สไฮโดรไซยาไนด์ ระเหย และความเป็นพิษหมดไป
    วิธีการต่างๆ ที่กล่าวมานี้สามารถลดความเป็นพิษด้วยการลด สารกลูโคไซด์ในมันสำปะหลังลงได้มากจนถึงหมดไป เป็นผลให้มัน สำปะหลังใช้บริโภคได้โดยไม่เป็นพิษต่อร่างกายเลย ถึงแม้ว่าในบางครั้ง ก่อนบริโภคจะขจัดสารที่มีพิษออกไม่หมด แต่ถ้ามีสารดังกล่าวหลงเหลือ อยู่บ้างในปริมาณเล็กน้อย เมื่อรับประทานเข้าไปสารนี้จะถูกน้ำย่อย ในลำไส้ย่อยได้อีก ฉะนั้นโอกาสที่สารพิษในหัวมันสำปะหลังจะเป็นพิษ ต่อการบริโภคนั้นจึงมีน้อยมาก ถ้าเราได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องในการ เตรียมอาหาร


Rank: 4Rank: 4

จังหวัด
กำแพงเพชร
กระทู้
28
โพสต์
596
ไทโอซัลเฟต 20% ร่วมกับโซเดียมไนไตรท์ 20% ในอัตราส่วน 3:1 ในขนาด 4 ซี.ซี./นํ้าหนัก 50 กิโลกรัม)....
แนะนำสถานที่ซื้อหน่อยครับ
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้

Rank: 4Rank: 4

จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
กระทู้
11
โพสต์
86
เป็นสูตรยาจากกรมปศุสัตว์ค่ะ
ดังนั้น เขาน่าจะมีให้เลย ไม่ต้องผสมและฆ่าเชื้อน้ำยาเอง ยานี้ฉีดเข้าเส้นเลือด จึงต้องปราศจากเชื้อโรค เท่านั้น

และเนื่องจากเป็นยาต้านพิษแบบเดียวกับที่ใช้ในคน
จึงเชื่อว่า..ร้านขายยาส่ง (มียาฉีดขายด้วย) จะมียาขายแน่นอน แต่ต้องซื้อยกแพ็ค ทั้งสองชนิดแล้วผสมเองใน syringe
แปลว่า..สะอาดแน่นอน (ถ้าผสมเป็น)

อีกทางเลือกหนึ่ง
โรงพยาบาล(คน) จะยอมแบ่งยาอย่างละสักสองสาม amp. ให้ไหมน๊อ

Rank: 4Rank: 4

G.S.A.
0240
จังหวัด
สุโขทัย
กระทู้
11
โพสต์
356

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

แสดงความคิดเห็น

djpong  ให้แก็สออกจากร่างกาย (อาการนี้เป็นไวมากถ้าเอาไม่ทัน1วันตายเลย)  โพสต์เมื่อ 20-4-2013 06:18:23
djpong  ถ้าดูแล้วท้องยังอืดไม่หายต้องใช้เข็มเจาะท้องแล้วบีบท้องเพื่อระบาย  โพสต์เมื่อ 20-4-2013 06:17:34
djpong  (รูมิเซน หรือ เฮปปาเจน ให้ฉีดเข้าสวาปข้างซ้ายเพื่อให้ไปหยุดแก็สโดยตรง)  โพสต์เมื่อ 20-4-2013 06:16:01
djpong  แล้วก็ใช้ยารูิมิเซร หรือ เฮปปาเจนเพื่อไปทำให้แก็สในกระเพราะลดลง  โพสต์เมื่อ 20-4-2013 06:14:41
djpong  จะทำให้เห็นน้ำลายฟูมปาก ต้องใช้ยาอะโทรปินเพื่อให้พิษไม่ดูดซึม  โพสต์เมื่อ 20-4-2013 06:13:32
0903170757

Rank: 2Rank: 2

จังหวัด
ไม่มีข้อมูล
กระทู้
0
โพสต์
40
5#
โพสต์เมื่อ 19-4-2013 20:11:16 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ไทโอซัลเฟต 20% ร่วมกับโซเดียมไนไตรท์ 20% ในอัตราส่วน 3:1 ตอนนี้ถูก อย.ขึ้นทะเบียนเป็นยาทะเบียนวัตถุอันตรายระดับเอ ถ้าใช้ต้องได้รับคำสั่งจาแพทย์เท่านั้นครับ อีกอย่างใบมันสัมปหลัง ไฮโดรไซยาไนไม่แยะมากพอกินได้แต่ไม่มากแล้วอย่าให้แพะกินน้ำแยะครับเพราะสารพวกนี้จะออกฤทได้ดีเมื่อสัตว์กินน้ำครับ เวลาถ้าจะให้กินควรให้น้ำในคอกให้น้อยหรือไม่ก็อย่าให้เลยดีที่สุดครับ

แสดงความคิดเห็น

yotin  ขอบคุณครับผม  โพสต์เมื่อ 19-4-2013 20:23:36

Rank: 9

G.S.A.
0266
จังหวัด
อุตรดิตถ์
กระทู้
42
โพสต์
2585

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

6#
โพสต์เมื่อ 19-4-2013 22:51:22 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ใบมันผมเคยให้กินครับ เอามาแช่น้ำไว้คืนหนึ่งแล้วเอาไปผึ่งให้แห้งในร่มครับ ให้กินเวลาหาหญ้าให้ไม่ทัน มีคนแก่ประสบการณ์แนะนำผมมาครับ

Rank: 4Rank: 4

จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
กระทู้
11
โพสต์
86
7#
โพสต์เมื่อ 20-4-2013 15:58:56 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย โยจันทบุรี2527 เมื่อ 19-4-2013 20:11
ไทโอซัลเฟต 20% ร่วมกับโซเดียมไนไตรท์ 20% ในอัตราส่วน 3:1  ...

ขอขอบคุณ สำหรับข้อมูลนี้

เนื่องจาก อิฉันไม่เคยต้องใช้ ก็เลยไม่สั่งซื้อหรือพยายามหามาใช้ แม้ในคลินิกตัวเอง และโรงพยาบาลสัตว์เล็กของคณะสัตวแพทยศาสตร์

Rank: 4Rank: 4

จังหวัด
กำแพงเพชร
กระทู้
28
โพสต์
596
8#
โพสต์เมื่อ 20-4-2013 20:03:00 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ตายตัวเดียว  คงจะรอดหมดแล้วขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ครับผม
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้

Rank: 5Rank: 5Rank: 5

จังหวัด
ลำพูน
กระทู้
6
โพสต์
896
9#
โพสต์เมื่อ 12-5-2013 14:16:11 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
เมื่อก่อนเลี้ยงด้วยมันสดเลยครับเผลอๆปล่อยลงแปลงเลย ฟาดเรียบ 8ไร่ครับ อิ่มสบายดี แต่ต้แงเคยให้หัดกิน ก่อนนะครับ ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเรียนแบบ อาจท้องอืดตายได้ครับ

Rank: 2Rank: 2

จังหวัด
ชุมพร
กระทู้
2
โพสต์
10
10#
โพสต์เมื่อ 12-5-2013 14:36:24 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ใบมันให้ดี  เอามาสับ แล้วหมักไว้ หลังจาก 21 วันไปแล้วผมว่าน่าจะกินได้ดี  เพราะผมใช้เลี้ยงแพะนมอยู่ ยังไม่มีแพะตาย

Rank: 9

G.S.A.
0179
จังหวัด
กาญจนบุรี
กระทู้
32
โพสต์
2157

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

11#
โพสต์เมื่อ 13-5-2013 10:59:18 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
เคยปลูกมันเพื่อจะเอาใบให้แพะ แต่สุดท้ายไม้กล้า รู้งี้เอามาหมักนานแล้ว555

Rank: 6Rank: 6

G.S.A.
0012
จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์
กระทู้
20
โพสต์
2787

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

12#
โพสต์เมื่อ 20-6-2013 23:22:08 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ขอขอบคุณ คุณหมอตะวันสำหรับองค์ความรู้ครับ  รออ่านเรืองต่อๆไปครับ
ห้วยเกรียบ ฟาร์มแพะ-แกะ (หน้ายูเทิร์นบ้านห้วยเกรียบ)
ถ.เพชรเกษม กม.394-395  อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ

สมาชิก   - ชมรมผู้เลี้ยงแพะ-แกะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Rank: 1

จังหวัด
ไม่มีข้อมูล
กระทู้
1
โพสต์
25
13#
โพสต์เมื่อ 19-8-2013 20:36:27 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ขอบคุณครับ มีประโยชน์มาก

Rank: 9

G.S.A.
0179
จังหวัด
กาญจนบุรี
กระทู้
32
โพสต์
2157

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

14#
โพสต์เมื่อ 20-8-2013 10:20:29 |แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ทบทวนความรู้แล้ว ขุดต้มกินตอนหิวดีกว่า5555
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย

GMT+7, 19-5-2024 04:38

Powered by Discuz! X2

© 2001-2011 Comsenz Inc.

ขึ้นไปด้านบน