- แต้ม
- 506
- สะสม
- 399
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 5-4-2013
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 19-7-2014
![Rank: 4](static/image/common/star_level2.gif) ![Rank: 4](static/image/common/star_level1.gif)
- จังหวัด
- กรุงเทพมหานคร
- กระทู้
- 11
- โพสต์
- 86
|
![](http://1.bp.blogspot.com/_ZnI7QDoctZo/TElTNNxlovI/AAAAAAAADwY/HIyB16_C3QU/s1600/17072010681.jpg)
เมื่อสักครู่ อิฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสมาชิกในบอร์ด สอบถามถึงเรื่องแพะกินใบมันสำปะหลังสด
อิฉันเป็นสัตวแพทย์ แต่ไม่ได้รักษาแพะ แค่เคยเรียน เคยอ่านหนังสือไปสอบนานนนนน มาแล้ว ก็เลยพอจะรู้นิดๆ หน่อยๆ เอง
อิฉันจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนเรียนมาว่า..กินมากไม่ได้ ถึงตาย
จึงค้นตำรามาตอบให้ที่นี่ นะคะ
ใบมันสำปะหลัง และหัวมันด้วย ถ้าจะให้ปศุสัตว์(วัวควายแพะแกะ) กิน ควรตากแห้งเสียก่อน เนื่องจากในใบ/หัวสด มีสารพิษคือ กรดไฮโดรไซยานิก
ถ้ากินไปแล้ว ทำไงดี
ตอบ กินไม่มาก ก็อาจมีอาการท้องอืด กระวนกระวายบ้างนิดหน่อย วิงเวียน คลื่นไส้ เป็นลม แล้วค่อยๆ ทุเลาลงเมื่อสารพิษค่อยๆ ถูกกำจัดจากลำไส้
แต่ถ้ากินมาก ก็ถึงตายได้
วิธีแก้พิษ
ตอบ เนื่องจากอาการเกิดขึ้นเมื่อสารพิษเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ดังนั้น ตอบตรงๆ ก็คือ แก้พิษโดยฉีดยาต้านพิษเข้าเส้นเลือด (สารละลายพวกโซเดียม ไทโอซัลเฟต 20% ร่วมกับโซเดียมไนไตรท์ 20% ในอัตราส่วน 3:1 ในขนาด 4 ซี.ซี./นํ้าหนัก 50 กิโลกรัม)....ให้สัตวแพทย์ฉีดให้ละกันนะคะ
ตัวที่ยังไม่แสดงอาการ ป้องกันได้ไหม
ตอบ (กำปั้นทุบดิน) อย่าให้ไปกินอีก ๕๕๕๕(พิมพ์ไป หัวเราะไป)
(จริงจัง) กินไปแล้ว แต่ยังไม่มีอาการ ก็อาจแค่ท้องอืด ซึม ตามระดับการกินเข้าไป กินน้อย ก็ไม่เป็นไร ร่างกายจัดการได้
แต่ถ้ากินมาก...เดี๋ยวก็งานเข้าละ เตรียมหมอ เตรียมยาได้เลย
ที่จริง
มันสำปะหลังเป็นพืชอาหารสัตว์ที่ดี มีผลวิจัยรับรองว่าทำให้ปศุสัตว์ที่เลี้ยงมีผลผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่าไม่ได้ใช้
แต่ต้องทำลายพิษจากมันฯ เสียก่อน
การลดความเป็นพิษในหัวมันสำปะหลังก่อนที่จะนำมารับประทาน สามารถทำได้หลายวิธีคือ
1. ปอกเปลือก เนื่องจากสารกลูโคไซด์จะสะสมอยู่ในเปลือกมากกว่า ในเนื้อมันสำปะหลัง การปอกเปลือกจึงเป็นการกำจัดสารดังกล่าวได้ดีที่สุด
2. ล้างน้ำและแช่น้ำ เนื่องจากสารกลูโคไซด์ละลายน้ำได้ดีมาก ดังนั้น การล้างน้ำและแช่น้ำนานๆ กลูโคไซด์จะละลายไปกับน้ำ
3.การหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และตากแดดให้แห้ง ในกระบวนการทำมันเสัน
4. การใช้ความร้อน เนื่องจากกลูโคไซด์สลายตัวได้ดีมากที่อุณหภูมิ 150 ํซ. ดังนั้นเมื่อนำหัวมันสำปะหลังมาทำให้ร้อนจะด้วยวิธีอบ นึ่ง ต้ม ความเป็นพิษจะหมดไป
5. การหมักดองหัวมันสำปะหลัง ทำให้เกิดกรดอินทรีย์ขึ้น ซึ่งมีผล ในการไฮโดรไลส์สารกลูโคไซด์ที่มีในหัวมัน ทำให้เกิดแก๊สไฮโดรไซยาไนด์ ระเหย และความเป็นพิษหมดไป
วิธีการต่างๆ ที่กล่าวมานี้สามารถลดความเป็นพิษด้วยการลด สารกลูโคไซด์ในมันสำปะหลังลงได้มากจนถึงหมดไป เป็นผลให้มัน สำปะหลังใช้บริโภคได้โดยไม่เป็นพิษต่อร่างกายเลย ถึงแม้ว่าในบางครั้ง ก่อนบริโภคจะขจัดสารที่มีพิษออกไม่หมด แต่ถ้ามีสารดังกล่าวหลงเหลือ อยู่บ้างในปริมาณเล็กน้อย เมื่อรับประทานเข้าไปสารนี้จะถูกน้ำย่อย ในลำไส้ย่อยได้อีก ฉะนั้นโอกาสที่สารพิษในหัวมันสำปะหลังจะเป็นพิษ ต่อการบริโภคนั้นจึงมีน้อยมาก ถ้าเราได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องในการ เตรียมอาหาร
|
|