- ชื่อจริง
- วชิรพล ศุกรภาค
- เพศ
- ชาย
- โทรศัพท์มือถือ
- 0866535820
- สนใจเลี้ยง
- แพะ
แกะ - แต้ม
- 878
- สะสม
- 516
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 20-2-2012
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 21-4-2016
- จังหวัด
- นนทบุรี
- กระทู้
- 13
- โพสต์
- 417
|
บทสรุป
ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะไม่มีเขาและการเป็นกะเทย ในแพะนม
มีการตั้งข้อสังเกตว่า แพะที่มีเขา (horned) มีโอกาส เป็นกะเทย (hermaphrodites) น้อยมากหรือไม่มีเลย การสำรวจในประเทศอังกฤษและอเมริกา พบว่าแพะที่มี 2 เพศ (intersexualgoats) ทั้งหมดเป็นแพะที่ไม่มีเขา จึงได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการมีเขาและไม่มีเขาของแพะกะเทยพันธุ์ ทอร์กเก้นเบอร์ก และ พันธุ์ซาเนน ระหว่าง ปี 1925 – 1944 จากการศึกษาพบว่า ยีนส์ที่ควบคุมการมีเขาและการเป็นกะเทย เป็นยีนส์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน (linkage genes อาจจะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กัน บนโครโมโซม) มีการเสนอรูปแบบ
การเขียน จีโนไทป์ ดังนี้
P เป็นยีนส์ที่ แสดง ลักษณะการไม่มีเขาเป็นลักษณะเด่น
p เป็นยีนส์ที่ แสดง ลักษณะการมีเขาเป็นลักษณะด้อย
h เป็นยีนส์ที่ แสดง ลักษณะการเป็นกะเทย เป็นลักษณะด้อย
H เป็นยีนส์ที่ แสดง ลักษณะการไม่เป็นกะเทย เป็นลักษณะเด่น
แพะแบบโฮโมไซกัส ที่เป็นปกติและมีเขา จะมี จีโนไทป์เป็น pH pH
แพะแบบ เฮทเทอโรไซกัส ที่เป็นปกติและไม่มีเขา Ph pH
แพะที่เป็นกะเทยทั้งหมด เป็นแพะที่ไม่มีเขา จึงน่าจะมี จีโนไทป์ Ph Ph
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิด Homozygous recessive ในลักษณะกะเทย (hh) จึงมีการแนะนำให้ผสมพันธุ์ระหว่างแพะที่มีเขากับแพะที่ไม่มีเขา ซึ่งในรุ่นลูกจะมีเขาครึ่งหนึ่งและไม่มีเขาอีกครึ่งหนึ่ง แต่จะไม่มีลักษณะกะเทย การผสมพันธุ์ระหว่างแพะที่ไม่มีเขาด้วยกันมีโอกาสที่จะได้ลูกเป็นกะเทย ถ้าแพะตัวทั้งคู่ผสมมียีนส์กะเทยแฝงอยู่
แปลจาก THE RELATION BETWEEN POLLED AND HERMAPHRODITIC CHARACTERS IN DAIRY GOATS ORSON N. EATON
Bureau of Animal Industry, U. S. Department of Agriculture, Washington, D.C.
ผู้แปล นายแสนศักดิ์ นาคะวิสุทธิ์ นักวิชาการสัตวบาล 7 ว. กลุ่มวิจัยและพัฒนาสัตว์เล็ก กองบำรุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์
|
-
คะแนนรวม: แต้ม + 10
สะสม + 15
ดูบันทึกคะแนน
|