สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
แชร์หน้านี้ไปที่ไลน์หรือเฟสบุ๊คได้ทันที คลิ๊กที่ปุ่ม . Share
ดู: 9242|ตอบ: 4

โครงการจัดทำเขตปลอดโรคของภาคตะวันออก [คัดลอกลิงก์]

Rank: 6Rank: 6

G.S.A.
0001
จังหวัด
ฉะเชิงเทรา
กระทู้
103
โพสต์
3524

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

โพสต์เมื่อ 6-3-2012 11:54:04 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

โครงการจัดทำเขตปลอดโรคของภาคตะวันออก ปี2555 งบประมาณ 30 ล้านบาท

โครงการจัดทำเขตปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย

ในภาคตะวันออกของประเทศไทย

๑.  หลักการและเหตุผล

        ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ค่อนข้างสูง ทั้งนี้เป็นผลมาจากความสามารถในการพัฒนาด้านการผลิตปศุสัตว์และรูปแบบอาหารต่างๆ รวมทั้งความสามารถด้านการตลาดของภาคเอกชนผู้ผลิตอาหารเพื่อการส่งออก และภาครัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ทำให้หลายประเทศยอมรับสินค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามข้อจำกัดในการส่งออกอันเนื่องมาจากภาวการณ์แข่งขันในตลาดโลกทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโรคปากและเท้าเปื่อยเป็นข้อกำหนด ที่สำคัญในการกีดกันการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ของต่างประเทศ

        การกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อยให้หมดไปจากประเทศไทย จำเป็นต้องใช้กำลังคน และงบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งต้องอาศัยระยะเวลาดำเนินการนานปี ต่างกับการกำหนดเขตปลอดโรคระบาดชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยเป็นบางส่วนของประเทศ เป็นแนวทางหนึ่งซึ่งมีความเป็นไปได้สูง และใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการกำจัดโรคนี้ทั้งประเทศ ดังนั้น หากพื้นที่เขตปศุสัตว์ที่มีการผลิตสัตว์ได้มากและปลอดต่อโรคปากและเท้าเปื่อยแล้ว จะเป็นหนทางสำคัญ ซึ่งช่วยให้ประเทศไทยสามารถขยายตัว ในด้านการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ได้

        ปัจจุบันภาคตะวันออกของประเทศไทยมีผลผลิตปศุสัตว์เพียงพอสำหรับการบริโภคและเหลือส่งไปจำหน่ายยังนอกพื้นที่เขตโดยเฉพาะสุกร ประกอบกับเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยน้อย จึงมีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งให้ภาคตะวันออกเป็นเขตปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งผ่านการรับรองโดยองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ

๒. วัตถุประสงค์

๒.๑.   เพื่อกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อยในภาคตะวันออกของประเทศไทยให้หมดไป

๒.๒.   เพื่อให้องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ หรือ OIE (Office International des Epizooties) รับรองสถานภาพปลอดโรคปากและเท้าเปื่อยในภาคตะวันออกให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

๒.๓.  เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตปศุสัตว์ และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ

๓.  พื้นที่ดำเนินการ

จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว และตราด

๔.  เป้าหมาย และระยะเวลา

ดำเนินการปี ๒๕๕๒ – ๒๕๕๖ รวม ๕ ปี

๔.๑  ดำเนินการควบคุม ป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยอย่างเข้มงวด

๔.๒  ไม่มีสัตว์แสดงอาการของโรคปากและเท้าเปื่อย ตั้งแต่ปี ๒๕๕๒  เป็นต้นไป

๔.๓  ในปี ๒๕๕๔ เป็นต้นไปมีหลักฐานแสดงว่าไม่พบเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยจากการสุ่มตรวจซีรั่มสัตว์ในพื้นที่

๔.๔  ในปี ๒๕๕๕  ขอรับการประเมินจาก OIE เพื่อรับรองสถานภาพปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย โดยการฉีดวัคซีน

๔.๕  ในปี ๒๕๕๖ ได้รับการรับรองสถานภาพปลอดโรคปากและเท้าเปื่อยโดยการฉีดวัคซีนจาก OIE

๕.  วิธีดำเนินงาน


๕.๑  การบริหารจัดการโครงการ

(๑)  จัดตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการในแต่ละระดับ

          -   ระดับกรม

          -   อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธาน

          -   ผู้อำนวยการสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์  เป็นเลขานุการ

          -   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นกรรมการ

          -   ระดับเขต

          -   ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ ๒  เป็นประธาน

          -   ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและบำบัดโรคสัตว์  สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ ๒  เป็นกรรมการ

          -   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เขตปศุสัตว์ที่ ๒  เป็นกรรมการ

          -   ระดับจังหวัด

          -   ผู้ว่าราชการจังหวัด  เป็นประธาน

          -    ปศุสัตว์จังหวัด  เป็นเลขานุการ

          -    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัด  เป็นกรรมการ

(๒)  จัดตั้งคณะทำงานบริหารโครงการ

(๓)  จัดหาและจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอในการดำเนินงานโครงการ

(๔)  การพัฒนาบุคลากร / ผู้ประกอบการค้า / เกษตรกร

          -  ฝึกอบรม / สัมมนา

          -  ศึกษาดูงาน

(๕)  การนิเทศและติดตามผลการปฏิบัติงาน

          -  เจ้าหน้าที่

          -   ติดตามและตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

          -   ตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่บกพร่องและลงโทษทางวินัย

          -  ผู้ประกอบการ / เกษตรกร

          -   นิเทศและติดตามการประกอบการให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการที่กฎหมายกำหนด

          -    ดำเนินคดีหากพบการกระทำผิด

(๖)  บูรณาการอัตรากำลัง

          -  หน่วยงานภายในกรม

          -  หน่วยงานภายนอกกรม เช่น มหาวิทยาลัย

          -  ภาคเอกชน

๕.๒  การกำหนดขอบเขตพื้นที่

(๑)  เขตควบคุมโรค (Control Zone) เพื่อเตรียมเป็นเขตปลอดโรค (Free Zone)

          -  เป็นพื้นที่ชั้นในของภาคตะวันออก ประกอบด้วย ส่วนหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี ส่วนหนึ่งของจังหวัดสระแก้ว ส่วนหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยองทั้งจังหวัด และจังหวัดชลบุรีทั้งจังหวัด

(๒)  เขตกันชน (Buffer Zone) ที่แบ่งกั้นระหว่างเขตควบคุมและเขตพื้นที่นอกเขตปลอดโรค

          -  ทิศเหนือกำหนดให้เทือกเขาใหญ่เป็นเขตกันชน โดยมีทางหลวงหมายเลข ๓๓ เป็นแนวแบ่งแยก

          -  ทิศตะวันตกกำหนดให้แม่น้ำบางปะกงเป็นแนวแบ่งแยก

          -  ทิศตะวันออกกำหนดให้ทางหลวงหมายเลข ๓๑๗ และหมายเลข ๓ เป็นแนวแบ่งแยก

          -  ทิศใต้กำหนดให้อ่าวไทยเป็นเขตกันชน

๕.๓  การจัดทำเครื่องหมายและขึ้นทะเบียนสัตว์และกำหนดพิกัดสถานที่ที่เกี่ยวข้อง

(๑)  โค กระบือ แพะ แกะ ทุกตัวต้องทำเครื่องหมายและขึ้นทะเบียนตามระบบที่กรมปศุสัตว์กำหนด

(๒)   สุกรพ่อแม่พันธุ์ทุกตัวต้องทำเครื่องหมายและขึ้นทะเบียนตามระบบที่กรมปศุสัตว์กำหนด

(๓)   ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการเก็บข้อมูลประวัติสัตว์ที่ขึ้นทะเบียนและค้นหาข้อมูลในระบบ Real Time on Web

(๔)   การกำหนดพิกัดที่ตั้ง สถานที่ต่างๆ ในระบบ Geographic Information System (GIS) เช่น สถานที่เลี้ยงสัตว์กีบคู่ทุกชนิด โรงฆ่าสัตว์กีบคู่ ตลาดนัดค้าสัตว์กีบคู่  ด่านกักกันสัตว์ จุดตรวจสัตว์ ฯลฯ

๕.๔  การเฝ้าระวังโรค

(๑)  การเฝ้าระวังเชิงรุก (Active Surveillance)

          -  ทางอาการ

          -   สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรเห็นความสำคัญในการแจ้งการเกิดโรคให้เร็วที่สุด                                    

          -  จัดระบบให้เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานตรวจเยี่ยมเฝ้าระวังโรคเป็นประจำ

          -   สร้างเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคในพื้นที่

          -  ทางห้องปฏิบัติการ

          -   สุ่มตรวจทางซีรั่มวิทยาเพื่อค้นหาโรคจากหลักฐานแสดงการติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย และตรวจสอบระดับภูมิคุ้มกันโรคในตัวสัตว์

          -    จัดทำธนาคารซีรั่ม (Serum Bank)

(๒)  การเฝ้าระวังเชิงรับ (Passive Surveillance)

          -  ทางอาการ

          -  จัดตั้งศูนย์รับแจ้งโรคระบาดประจำตำบล

          -  จัดระบบ Call Center รับแจ้งโรคระบาด

          -   ทางห้องปฏิบัติการ

          -   ตรวจแยกชนิดเชื้อไวรัสตามมาตรฐานสากล

          -   การเฝ้าระวังทางพันธุกรรมของเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย (Molecular Epidemiology)

          -   ระบบรายงานสม่ำเสมอ

(๓)  จัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยโรคปากและเท้าเปื่อยอย่างรวดเร็วที่ด่านกักกันสัตว์ตามแนวเขตรอบนอกของเขตกันชน

๕.๕  การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคปากและเท้าเปื่อยโดยการฉีดวัคซีน

(๑)  การสร้างภูมิคุ้มกันให้โค กระบือ แพะ แกะ

          -  ฝึกอบรมให้เจ้าของสัตว์สามารถฉีดวัคซีนได้เอง

          -  กำหนดช่วงเวลารณรงค์ฉีดวัคซีนปีละ ๒ ครั้ง คือ มิถุนายน และ ธันวาคม

          -  จัดระบบการตรวจสอบให้สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนจริง โดยใช้ทั้งกฎหมายและส่งเสริมระบบการซื้อขายสัตว์ที่ฉีดวัคซีนแล้ว

(๒)  การสร้างภูมิคุ้มกันให้สุกร

          -  กรมปศุสัตว์จัดเตรียมวัคซีนจำหน่ายให้เพียงพอ

          -  จัดระบบให้สมาคมหรือกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรตรวจสอบควบคุมให้มีการฉีดวัคซีนอย่างเคร่งครัด

(๓)  สนับสนุนช่วยเหลือประเทศกัมพูชาผ่านองค์กรระหว่างประทศในการป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยให้กับสัตว์ตามแนวชายแดนติดต่อกับประเทศไทย

(๔)  พัฒนาระบบการผลิตวัคซีนให้ได้มาตรฐานที่ OIกำหนด                                      

๕.๖  การควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์

(๑)  การอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์เข้าในเขตกันชนหรือเขตควบคุมโรคต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะประเด็น ดังนี้

          -  สัตว์กีบคู่

          -  มีประวัติได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยตามกำหนด

          -  ตั้งแต่ ปี ๒๕๕๔เป็นต้นไป ต้องมีหลักฐานทางซีรั่มวิทยา ไม่พบการติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย

          -  ซากสัตว์กีบคู่

          -  ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ เป็นต้นไปต้องเป็นซากสัตว์ที่ถอดกระดูกแล้ว (Deboned meat) และได้จากสัตว์ที่ผ่านการตรวจซีรั่มไม่พบการติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย

(๒)  การนำเข้าสัตว์กีบคู่จากประเทศกัมพูชาในช่องทางที่ติดต่อกับเขตกันชน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกรมปสุสัตว์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะประเด็น ดังนี้

          -  สัตว์นั้นต้องมีหลักฐานไม่พบการติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย โดยการตรวจซีรั่ม

          -  สัตว์นั้นต้องมีภูมิคุ้มกันโรคปากและเท้าเปื่อยในระดับที่สามารถป้องกันโรคได้ทั้ง ๓ ไทป์

(๓)  พัฒนาปรับปรุงด่านกักกันสัตว์

          -  เพิ่มประสิทธิภาพจุดตรวจสัตว์ตลอดแนวระหว่างเขตควบคุมโรคกับเขตกันชนและระหว่างเขตกันชนกับเขตปกติ

          -   เพิ่มอัตรากำลังสารวัตรกรมปศุสัตว์ให้เพียงพอ

          -   สนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและความมั่นคง และศุลกากรในการปฏิบัติงานปราบปราม

          -   จัดหายานพาหนะและป้อมจุดตรวจสัตว์ให้เพียงพอ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการตั้งจุดตรวจ

          -   เพิ่มประสิทธิภาพการกักตรวจสัตว์

          -   พัฒนาปรับปรุงสถานที่กักตรวจสัตว์ให้พร้อมรองรับสัตว์ที่จะนำเข้าในเขตกันชน หรือเขตควบคุมโรค

          -   จัดระบบการกักกัน และตรวจสัตว์ระหว่างกักให้เป็นไปตามหลักวิชาการ

๕.๗  การควบคุมโรค

(๑)  การซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง

(๒)  พัฒนาปรับปรุงระบบรายงานโรค และเก็บตัวอย่างให้รวดเร็ว ถูกต้อง

(๓)  ควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ รวมทั้งพาหะของโรค โดยรอบจุดเกิดโรคอย่างเข้มงวด ในรัศมี ๕ กิโลเมตร และ ๑๐ กิโลเมตร

(๔)  สอบสวนโรค โดยใช้หลักระบาดวิทยา และสอบหาข้อมูลหลักฐาน เพื่อสรุปวิเคราะห์สาเหตุการเกิดโรคได้ถูกต้อง

(๕)  ทำลายสัตว์

-  ทำลายสัตว์ป่วยและสัตว์ที่สัมผัสสัตว์ป่วยทั้งหมด โดยไม่มีการกักรักษา ทั้งในเขตกันชนและเขตปลอดโรค

-  จัดหาค่าชดใช้ให้เพียงพอ โดยชดใช้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

-  พัฒนาปรับปรุงวิธีการทำลายให้ถูกสุขลักษณะ ตามระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

(๖)  ทำลายเชื้อโรคให้ทั่วถึง

(๗)  สร้างภูมิคุ้มกันเร่งด่วน

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยในลักษณะวงแหวน (Ring Vaccination) ให้สัตว์กีบคู่ในรัศมี ๕ กิโลเมตร จากจุดเกิดโรคหรือสามารถขยายหรือลดรัศมีการฉีดวัคซีนได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โดยหลีกเลี่ยงการใช้วัคซีนขวดเดียวกัน รวมทั้งอุปกรณ์ฉีดวัคซีนในสัตว์ต่างฝูงกัน และต้องป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากคน ยานพาหนะ และอุปกรณ์

(๘)  เฝ้าระวังการแพร่กระจายของโรคทั้งทางอาการและทางห้องปฏิบัติการ

(๙)  การเตือนภัยให้เกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อป้องกันตนเอง

(๑๐)  การพัฒนาห้องควบคุมโรค (War room) ให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานบริหารจัดการวางแผนควบคุมสั่งการให้การป้องกัน ควบคุม กำจัดโรคมีประสิทธิภาพ

          -  ห้องควบคุมโรคประจำส่วนกลาง

          -  ห้องควบคุมโรคประจำสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ ๒

          -  ห้องควบคุมโรคประจำจังหวัด

(๑๑) สาเหตุให้เกิดหรือแพร่กระจายโรค

(๑๒)  พัฒนาชุดเฉพาะกิจควบคุมโรคประจำสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ ๒ ให้มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานตลอดเวลา (Task Force Unit                                                                     )


๕.๘  การประชาสัมพันธ์และเตือนภัย

(๑)  ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ผู้ประกอบการค้าสัตว์และประชาชนทั่วไปได้มีความรู้เกี่ยวกับโรคปากและเท้าเปื่อย วิธีการแพร่ระบาดของโรค วิธีการควบคุมและป้องกันโรค และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนี้ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจถึงการดำเนินงานกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อยของกรมปศุสัตว์ รวมถึงข้อกำหนดและระเบียบของกรมปศุสัตว์ในการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าภาคตะวันออก และผลประโยชน์ที่จะได้รับต่อตนเองและประเทศชาติโดยส่วนรวม เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินงานต่อไป วิธีการดำเนินการประชาสัมพันธ์นั้นให้ใช้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ โสตทัศนูปกรณ์ และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งจะเน้นใช้สื่อเหล่านี้ไปยังกลุ่มบุคคลเป้าหมายตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

(๒)  จัดให้มีการประชุมสัมมนาระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง  กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี บริษัทที่ประกอบธุรกิจเลี้ยงสัตว์และค้าสัตว์ สถานีโทรทัศน์และวิทยุต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงการดำเนินงานไปในทางเดียวกันและมีการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ

(๓)  ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสนใจที่จะบริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อลดปัญหาการแพร่โรคที่เกิดจากระบบการเลี้ยงและโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดสัตว์หรือโรคสัตว์สู่คน (Zoonosis)

๕.๙  ความร่วมมือระหว่างประเทศ

(๑)  จัดสร้างความร่วมมือทางวิชาการโดยมีการประสานงานและขอความสนับสนุนจาก FAO/APHCA/RCU และ OIE โดยประเทศไทยจะช่วยเหลือทางด้านวิชาการของโรคปากและเท้าเปื่อย เช่น ด้านการตรวจวินิจฉัย ด้านการผลิตวัคซีน การศึกษาทางระบาดวิทยา การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ เป็นต้น

(๒) สนับสนุนด้านวัคซีนให้แก่กัมพูชา เพื่อใช้กับสัตว์ในพื้นที่ชายแดนติดต่อกับภาคตะวันออกเพื่อเป็น Buffer zone ให้กับเขตปลอดโรค

(๓)  ทำความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์

(๔)  สนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาจัดทำแผนการป้องกันและกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อยในประเทศกัมพูชา

(๕)  จัดทำโครงการร่วมมือในการทำ Sero-surveillance บริเวณชายแดนกัมพูชาที่ติดต่อกับภาคตะวันออกของประเทศไทย

(๖)  การเสนอขอรับรองเป็นเขตปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย จาก OIE

          -   มีแนวกันชน (Buffer Zone) กั้นระหว่างเขตปลอดโรคกับเขตปกติ

          -   มีการรายงานภาวะโรคต่อ OIE อย่างสม่ำเสมอ

          -   ไม่มีการระบาดของโรคในช่วง ๒ ปี ก่อนยื่นขอรับรอง

          -   มีหลักฐานทางซีรั่มไม่พบเชื้อ FMDV ในช่วง ๑ ปีก่อนยื่นขอรับรอง

          -   มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยให้กับสัตว์กีบคู่ในพื้นที่เป็นประจำ โดยวัคซีนต้องมีมาตรฐานที่ OIE. กำหนด

          -   มีระบบควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์ที่ไวต่อการติดต่อโรคปากและเท้าเปื่อยเข้าพื้นที่ปลอดโรคอย่างเข้มงวด

๕.๑๐  การรับรองฟาร์มปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย

(๑)  ฟาร์มต้องผ่านมาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์

(๒)  สัตว์ในฟาร์มต้องมีระบบการบันทึกข้อมูลเป็นรายตัวหรือรายฝูง

(๓)  มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักวิชาการ เมื่อเกิดโรคระบาดในฟาร์ม

(๔)  มีการตรวจซีรั่ม

          -  หลักฐานแสดงการไม่มีเชื้อโรคในฟาร์ม

          -  หลักฐานแสดงระดับภูมิคุ้มกันโรค

(๕)  สัตว์ที่จะนำเข้าฟาร์มต้องมีสถานะด้านสุขภาพสัตว์เดียวกันหรือสูงกว่าในฟาร์ม

(๖)  พื้นที่โดยรอบฟาร์มในรัศมีไม่ต่ำกว่า ๑๐ กิโลเมตร ต้องมีการควบคุม ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ การเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มงวด รวมทั้งการตรวจซีรั่มสัตว์เช่นเดียวกับในฟาร์ม

๕.๑๑  การพัฒนาโรงฆ่าสัตว์กีบคู่

(๑)  สนับสนุนเงินทุนพัฒนาโรงฆ่าให้ได้มาตรฐานตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด

(๒)  พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ

(๓)  จัดระบบให้โรงฆ่าสัตว์รับเฉพาะสัตว์ที่มาจากฟาร์มมาตรฐาน หรือให้มีระบบกีดกันสัตว์ที่เลี้ยงไม่ได้มาตรฐาน

๕.๑๒  การพัฒนาปรับปรุงการเลี้ยงสัตว์รายย่อย (Backyard)

(๑)  สนับสนุนช่วยเหลือให้มีการเลี้ยงภายใต้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

(๒)  ส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้เลี้ยงรายย่อย

(๓)  ส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงรายใหญ่มีบทบาทในการดูแลสนับสนุนช่วยเหลือผู้เลี้ยงรายย่อย

๕.๑๓  การพัฒนาปรับปรุงผู้ประกอบการรับซื้อสัตว์และขนส่งสัตว์กีบคู่

(๑)  ขึ้นทะเบียนผู้รับซื้อสัตว์

(๒)  ฝึกอบรมและสร้างแรงจูงใจให้สามารถเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังโรค

(๓)  ปรับปรุงยานพาหนะบรรทุกสัตว์ รวมทั้งระบบการขนส่งสัตว์ให้เหมาะสมไม่เป็นการทารุณสัตว์

(๔)  ปรับปรุงสถานที่แปรรูปสัตว์ตายให้ถูกสุขลักษณะภายใต้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

๕.๑๔  ส่งเสริมการเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะให้เพียงพอ

เพิ่มปริมาณแม่โค กระบือ แพะ แกะ ให้มากพอที่จะผลิตลูกให้เพียงพอสำหรับบริโภคภายในเขตปลอดโรคและเขตกันชน โดยมิต้องนำเข้ามาจากพื้นที่อื่นนอกเขตกันชน

๕.๑๕  การเจรจาเปิดตลาดการค้าสัตว์และซากสัตว์

(๑)  จัดตั้งคณะเจรจาประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

(๒)  เตรียมความพร้อมในทุกด้านให้กับคณะเจรจา

๕.๑๖ การติดตามประเมินผล

(๑)  จัดตั้งคณะทำงานติดตามประเมินผล โดยมีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้วย

(๒)  ประเมินผลการดำเนินงานอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง

๖.  ตัวชี้วัดความสำเร็จ

(๑)   จำนวนฟาร์มสุกรมาตรฐานได้รับการรับรองฟาร์มปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย ไม่น้อยกว่า ๕% ของจำนวนฟาร์มสุกรมาตรฐานทั้งหมด ต่อปี

(๒) ส่งออกสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ของสัตว์ประเภทโค กระบือ สุกร แพะ แกะ ไปจำหน่ายต่างประเทศ ได้มูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า ๕% ต่อปี


๗.  หน่วยงานที่รับผิดชอบ

กรมปศุสัตว์  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

๘.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ


๘.๑  สามารถส่งออกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ คิดเป็นมูลค่าเริ่มต้นกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี

๘.๒  ลดค่าใช้จ่ายด้านการควบคุมป้องกันกำจัดโรคปากและเท้าเปื่อยในภาคตะวันออกของประเทศ เช่น ค่าวัคซีน ค่ารักษาพยาบาล คิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ ๓๐ ล้านบาท

๘.๓  ลดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ กรณีผลผลิตด้านปศุสัตว์ลดลง จากการเกิดโรคระบาด

๘.๔  ส่งเสริมให้มีการพัฒนาการเลี้ยงปศุสัตว์ และสามารถยึดอาชีพการเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลักที่มั่นคงได้

๘.๕  เป็นแนวทางในการที่จะกำจัดโรคระบาดในปศุสัตว์ที่สำคัญชนิดอื่นต่อไปในอนาคต

ว.อุดมทรัพย์ฟาร์มแพะบอร์เลือดร้อยที่แปดริ้วG.S.A.0001
ผู้นำเข้าแพะ-แกะสายเลือดแชมม์โลกจากแอฟริกา
และตัวแทนจัดจำหน่าย สายพันธุ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
udomsub.v@gmail.com  AIS 081-687-8607

Rank: 5Rank: 5Rank: 5

จังหวัด
อุทัยธานี
กระทู้
22
โพสต์
1315
โพสต์เมื่อ 6-5-2012 05:30:22 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
บ้านภูแสงดาวฟาร์ม อุทัยธานี
ดินแดนแห่งความฝัน สวรรค์ที่คุณสัมผัสได้
E-Mail Address: pal_di@hotmail.com

โทร.081-972-6404

Rank: 6Rank: 6

G.S.A.
0012
จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์
กระทู้
20
โพสต์
2787

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย

โพสต์เมื่อ 6-5-2012 08:24:43 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณบ้านภูแสงดาวฟาร์ม(ไก่สามเหลือง)ที่ปลุกมาอ่านครับ
ห้วยเกรียบ ฟาร์มแพะ-แกะ (หน้ายูเทิร์นบ้านห้วยเกรียบ)
ถ.เพชรเกษม กม.394-395  อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ

สมาชิก   - ชมรมผู้เลี้ยงแพะ-แกะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Rank: 1

จังหวัด
นครสวรรค์
กระทู้
0
โพสต์
19
โพสต์เมื่อ 29-11-2015 11:54:32 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Rank: 1

จังหวัด
หนองคาย
กระทู้
0
โพสต์
2
โพสต์เมื่อ 19-6-2019 18:32:18 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบพระคุณมากครับที่เอาความรู้มาแบ่งปัน
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย

GMT+7, 14-12-2024 05:37

Powered by Discuz! X2

© 2001-2011 Comsenz Inc.

ขึ้นไปด้านบน