น้ำเชื้อแพะหนัก 275-280 กก.

joe

หวัดดีครับนายก ผมเห็นแพะน้ำหนัก 275 - 280 กก.ผมว่ามันน่าสนใจมากนะครับ ทางสมาคมไม่คิดที่จะอยากได้น้ำเชื้อมาผสมบ้านเราบ้างหรือครับ มีมาให้ดู


http://www.youtube.com/watch?v=t9XOlx-6kf0


http://www.youtube.com/watch?v=t9XOlx-6kf0


http://www.youtube.com/watch?v=10Dj1v6F9N8

admin

http://www.youtube.com/watch?v=10Dj1v6F9N8


ช่วยใส่เป็นวีดีโอในบอร์ดให้ครับ

ท่านก็สามารถใส่เองได้นะครับ

จากลิ้งค์

http://www.youtube.com/watch?v=10Dj1v6F9N8&

ก็แค่ใส่โค๊ดที่ต่อหลังจาก watch?v=............. ในระหว่างโค๊ด [youtube][/youtube]

ซึ่งจะใส่ได้ 1 วิดีโอต่อการข้อความการโพสครั้งหนึ่งนะครับ

ตัวอย่างการใส่โค๊ด

1. [youtube]10Dj1v6F9N8[/youtube]

คัดลอกไปที่คลิปบอร์ด

v.udomsub

การจะเลือกพ่อพันธุ์มาเป็นพ่อผมว่าเราต้องศึกษาเรื่องพันธุกรรมนะครับ
ไม่ใช่ว่าเราเห็นพ่อตัวใหญ่แล้วนำมาเป็นพ่อพันธุ์
ผมจะพูดให้เข้าใจง่ายๆคือแพะส่วนใหญ่ที่เกษตรกรขายกันน้ำหนักก็ประมาณ25-30กิโลก็ขายกันแล้วถูกต้องมั๊ยครับ
ถ้าถูกผมว่าเราต้องหาพ่อพันธุ์ที่มีพันธุกรรมที่ให้ลูกออกมาแล้วให้โตให้ได้25-30กิโลในระยะเวลาที่น้อยที่สุดนะครับถึงจะถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ

joe

ผมว่าถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ใหญ่ขนาดเนี้ย น้ำหนักขนาด 25-30 กก.ระยะเวลาเลี้ยงคงประมาณ 2-3 เดือนได้มั้ง(ความคิดผมเอง) เกิดใหม่ๆน้ำหนักคงถึง 20 กว่าโลแล้วมั้งครับ (ความเห็นส่วนตัว) ด้วยความเคารพ

ไอ้ด่างเกยชัย

ดูจากภาพรวมๆนะครับ
น่าจะเป็นแพะแถวปากิสถานหรืออินเดียตอนเหนือแถวๆกัสมี(คนไทยเรียกแคชเมียร์)
เขาใช้คำว่า bukra ภาษาแขกแปลว่า แพะ (ภาษาอินเดีย)

ตัวโตจริงครับ แต่การเลี้ยงแพะเนื้อเราน่าจะดูอัตราการเจริญเติบโตด้วยนะครับ
เช่น วัว อินดูบราซิล จะสังเกตว่า ตัวใหญ่โตมาก แต่อัตราการเจริญเติบโตจากระยะลูกวัวไปสู่วัวเพื่อการแปรรูปนั้น
เทียบไม่ได้เลยกับวัวกำแพงแสนหรือลูกผสมบรามัน+เลือดยุโรป เจ้าหูยาวนี่กว่าจะขุนเต็มต้องใช้เวลาราวๆห้าปี มันกินอาหารเป็นตู้ๆรถไฟเชียวครับ และกว่าจะสมบูรณ์นั้น อายุเกินกว่ามาตรฐานวัวขุนไปแล้วครับหรือ แก่เกินแกง นั่นเอง

แล้วที่สงสัยอีกประการนึงคือ มันทำไมไม่มีชื่อเสียงเลย ในวงการแพะทั้งที่ใหญ่โตมโหฬานอย่างนั้น
ประเทศที่ขาดแคลนอาหารและมีศักยภาพในการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ต่างๆเพื่อเป็นอาหาร กลับไม่กล่าวถึงเลย
แม้แต่ประเทศเศรษฐีน้ำมันที่แห้งแล้งก็ตาม


ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ

dejasaang

ก็น่าคิดนะครับ? ถ้าเอามาประกวดบ้านเราเค้าคงให้ชนะในประเภท GRAND CHAMP นะ๊ครับ (เล็กๆๆไม่ใหญ่ๆชนะ)

หนุ่มโคราช

เอ่อ..ถ้าจะใช้พ่อพันธุ์ตัวขนาดนี้ เราคงต้องหาแม่พันธุ์กันใหม่ก่อนล่ะครับ

nop21

แกะพันธ์ใหญ่ ที่สุด ดูเค้าก่อน  ไม่ทราบว่าพันธ์อะไร

ปริญญา

ใหญ๋มาก แม่พันธุ์บ้านเราคงไม่ไหวแน่

รักษ์ฟาร์ม

ขออนุญาติออกความเห็น การเริ่มต้นจะทำให้ตัวใหญ่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ โดยเริ่มต้นแบบโดยหาพ่อ-แม่พันธ์ตัวสูงและยาวก่อน โดยต้องแองโกล หรือจามาปารี จะไปจุดหมายง่ายกว่า พ่อต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า80ก.ก.แม่45ก.ก.และเมื่อได้ลูกF1มาก็เริ่มเข้าโปรแกรม
1อัด (อัดอาหารเม็ดเต็มที่ประมาณ2ก.ก.ต่อวัน ใช้หญ้าเป็นอาหารเสริม)
2ระเบิด(ใช้ยาเร่งการเจริญเติบโต)
ผมเคยทำF2ได้น้ำหนัก144ก.ก.อายุ2ปี

  ไม่แนะนำให้ทำครับ
ไม่คุ้มทุน  ที่ผมทำเพื่อการทดลองกับต่างประเทศ เพื่อดูอัตราแลกเนื้้อเป็นหนัก

v.udomsub

a

รักษ์ฟาร์ม

ได้ครับ แต่มันมีผลข้างเคียงนะ
1.จะก้าวร้าว(ในบางตัวประมาณ1ใน10)
2.มีอาการติดยาที่ใช้(หากใช้ยาที่เกินกำหนด)
3.ในเพศผู้ในช่วงที่ยาออกฦิทธิ์ อัตตราการผสมติดจะต่ำ

บ้านภูแสงดาวฟาร์ม

ขออนุญาติ ออกความเห็นนะครับ
อัตราแลกเนื้อ ( โดยน้ำหนักตัวสัตว์ ต่อ ระยะเวลาเลี้ยง ) กับ จุดคุ้มทุน
(รายรับ)
สมมติ ลูกแพะขุนจากคอกเราเลี้ยง 6 เดือน ขาย ตก 30 โลๆละ 130 บาท เป็นเงิน 3,900 บาท
ถ้าเลี้ยงแบบไล่ทุ่งปล่อยกินอาหารเอง ไม่จ่ายค่าอะไรเลย มีรายได้ เท่ากับ 650 บาท ต่อ เดือน ต่อ ตัว
(รายจ่าย)
แต่อย่าลืม เราต้องดูแล แม่มันอีก 3 เดือน ก่อนมันหย่านม
1.ให้อาหารเม็ด อีก 500 กรัม ต่อวัน เท่ากับ 15 กิโล ต่อเดือน เป็นเงิน 140 บาท ต่อเดือน
2.ค่ายา (แรกเกิด อ๊อกซี่,อม๊อกซี่,ธาตุเหล็ก ถ่ายพยาธิฉีดและกิน ไอเวอร์แมก,เลวา และ ฯลฯ) เป็นเงิน 100 บาท
รวมจ่าย 240 บาท
สรุป แล้ว เหลือรายได้ 410 บาท ต่อเดือน
อยากมีรายได้ 12,300 บาท ต่อเดือน ต้องเลี้ยงลูกแพะขุน 30 ตัว แม่แพะอีก 30 ตัว พ่อแพะอีก 2 ตัว
ยังไม่คิดค่าเสื่อมโรงเรือน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอาหารเสริมโปรตีน ค่าวัคซีน ค่าอุปกรณ์เวชภัณฑ์ ค่าแร่ธาตุ และที่สำคัญต้องดูแลแม่พันธ์ในระหว่างตั้งท้องอีก 5 เดือน
ที่ผมพูดมาคือต้องการเตือน ใครที่เลี้ยงแบบขังคอก ไม่มีแหล่งอาหาร(แปลงหญ้า) ต้องขับรถออกไปหาอาหาร (รายจ่ายเพิ่ม ค่าเสื่อมรถ ค่าน้ำมัน ฯลฯ)

บ้านภูแสงดาวฟาร์ม

ผมคิดเหมือนท่านนายกครับ
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรายได้ของเรา คือ
1.พันธุกรรมสัตว์
2.ระยะเวลาการเลี้ยง
3.อาหาร
4.วิธีการดูแล
5.ตลาดรับซื้อ
สมมติ อีกเช่นกัน
- แม่พันธ์ ใช้ระยะเวลาตั้งท้องน้อย
- อัตราการเติบโตเร็ว เช่น อายุ 5 เดือน น้ำหนัก 40โล
- เสียค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารน้อยสุด เกือบจะไม่จ่ายเลย
- แพะ สุขภาพดี แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย อัตราเสี่ยงโรคพยาธิแทบไม่มี
- ตลาดรับซื้อ ที่เชื่อถือได้ไม่เอาเปรียบ
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ผมว่าอาชีพนี้จัดว่าน่าสนใจอย่างมาก
ต้องขออภัยถ้ามีความผิดพลาด เนื่องจากประสพการเลี้ยงของผมยังน้อยเลี้ยงไม่ถึงปีเลย ที่ขออนุญาติออกความเห็นเพราะว่าเป็นมุมมองของผม แต่ถ้าใครมีความเห็นที่ต่างออกไป ช่วยแสดงออกด้วยนะครับ จะได้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพนี้ให้ก้าวหน้าต่อไป

dejasaang

การจัดเก็บค่าบำรุงรายปี ปี 2555 ของสมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะไทย
http://www.thaigoatsheep.com/for ... =149&fromuid=12