เขียนโดย Administrator | 25 มีนาคม 2011
ในการเลี้ยงแพะเกษตรกรคงเคยประสบกับปัญหาแพะป่วยเป็นหวัด มาบ้างแล้ว แต่หากท่านเป็นเกษตรกรมือใหม่ อาจตั้งคำถามในใจว่า อาการของแพะเป็นหวัดเป็นอย่างไร ? สำหรับแพะที่เป็นหวัด ความจริงสังเกตง่ายๆ ดังนี้ เช่น มีอาการไอ จาม มีน้ำมูกใส สีเหลืองขุน หรือเขียว เป็นต้น นอกจากนี้แล้วแพะบางตัวอาจจะแสดงอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ซึม,มีขี้ตา,ไม่กินอาหาร,กินอาหารได้น้อยลง และถ้าหากแพะมีสุขภาพที่ไม่ดีอยู่แล้ว เช่น ผอมแห้ง,ท้องเสีย,บาดเจ็บ,ขี้ เรื้อน เห็บหมัด หรืออาหารที่ใช้เลี้ยงไม่เพียงพอในด้านปริมาณ และคุณภาพ ก็ยิ่งจะทำให้แพะที่ป่วยเป็นหวัดอยู่แล้วมีอาการรุนแรงมากขึ้นและอาจถึงขั้น ตายในเวลาต่อมา
ท่านเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะทราบหรือไม่ว่า… อาการเป็นหวัดในแพะสามารถเกิดขึ้นได้กับแพะทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แพะแรกเกิด แพะหย่านม แพะรุ่น แพะสาว แพะพ่อพันธุ์และแพะแม่พันธุ์ สาเหตุการเกิดโรคเกิดได้จากหลายสาเหตุซึ่งท่านอาจตั้งคำถามขึ้นมาว่า อะไรคือสาเหตุ? จะป้องกันรักษาแพะได้อย่างไรไม่ให้แพะตาย? โดยทั่วไปแล้วการเลี้ยงแพะเรามักจะไม่ค่อยกลับไปมองหาสาเหตุการเกิดโรคส่วนใหญ่ จะใช้วิธีการรักษาโดยสอบถามจากผู้มีประสบการณ์มาก่อน เช่น ใช้ยาอะไรฉีดรักษา? ฉีดอย่างไร? ใช้ยาสมุนไพรตัวไหนรักษาหรือแม้กระทั่งการก่อกองไฟช่วย แพะบางตัวที่ผ่านการรักษาอาการเป็นหวัดดังกล่าวอาจหายเป็นปกติ บางตัวดีขึ้น แล้วกลับมาเป็นอีกหลังจากนั้น 3 – 4 วัน บางตัวตายไปเลยก็มีครับ/. จากประสบการณ์การทำงานที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสตูลผมมีข้อคิดมาฝากเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะเกี่ยวกับการจัดการปัญหาแพะเป็นหวัดดังนี้
1.โรงเรือน หลายท่านคงสงสัยว่าแพะเป็นหวัดเกี่ยวข้องอะไรกับโรงเรือน..?
ผมอยากให้ท่านลองนึกถึงตัวเราเองว่า ถ้าเรามีบ้านพักอาศัยที่ดี เช่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับ ไม่ชื้น หน้าฝนหรือหน้าหนาว ก็สามารถอยู่ได้อย่างสบายๆและแพะก็เช่นกัน สำหรับโรงเรือนเลี้ยงแพะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นหวัดในแพะ พอสรุปได้ดังนี้
1.1 ใต้พื้นโรงเรือน โดยทั่วไปใต้พื้นโรงเรือนจะเป็นที่รวบรวมสิ่งต่างๆ เช่น ขี้แพะ เยี่ยวแพะ เศษใบไม้ ใบหญ้าที่เหลือจากการกินของแพะ สิ่งเหล่านี้ถ้าเกิดมีความชื้นที่เกิดจากมีฝนตก น้ำขัง จะทำให้เกิดการหมัก กลิ่นที่เกิดจากการหมักก็จะทำการรบกวนทั้งแพะ ทั้งเจ้าของสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นเยื้อเมือก ตา จมูก แล้วท่านหล่ะท่านคิดว่าจริงหรือไม่ !!! ถ้ามีแก๊สอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและมีอยู่ตลอดเวลา ก็จะส่งผลทำให้แพะเริ่ม มีน้ำตาไหล มีขี้ตา ระคายเคืองที่ระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้ไอ จาม และมีน้ำมูก ซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของการเป็นหวัด ดังนั้นใต้พื้นคอกโรงเรือนควรมีการเก็บกวาดเศษใบไม้ เศษอาหารของแพะและขี้แพะ ให้เป็นที่เพื่อที่จะใต้พื้นคอก แห้ง สะอาด เป็นประจำทุกๆ 1 – 2 สัปดาห์ สำหรับเศษอาหาร เศษใบไม้ เศษอุจจาระสามารถนำมาหมักและนำไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืช ต่อไปได้
รูปภาพ: พื้นคอกที่ไม่เหมาะสม
1.3 ความสูงระหว่างพื้นคอกถึงหลังคา ควรมีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเรื่องของลม แดด ฝน และให้อากาศระบายและถ่ายเทได้ดี แพะอยู่แล้วสบาย
1.4 บริเวณรอบๆโรงเรือน ให้เก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณรอบๆโรงเรือน เศษใบไม้ที่นำมาให้แพะกิน ควรมีการจัดการให้ดี เพื่อไม่ให้ไปขวางทิศทางลมหรือแสง ส่งผลให้คอกอับ ชื้น มีกลิ่น และจะส่งผลเช่นเดียวกับ ข้อ 1.1
2.เรื่องอื่นๆ
2.1อาหาร แพะเป็นพืชที่สามารถกินสัตว์ได้หลากหลายทั้งหญ้าและใบไม้ เราต้องศึกษาหาข้อมูลหรืออาจจะสอบถามหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ในเรื่องอาหารแพะ เช่น หญ้าหรือใบไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการแก่แพะ เพื่อที่จะได้จัดเตรียมปลูกให้เพียงพอสำหรับแพะทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพต่อไป
2.2 พยาธิ เป็นตัวที่คอยแย่งอาหารจากแพะทำให้แพะผอม บางตัวท้องเสีย ดังนั้น การถ่ายพยาธิในแพะสม่ำเสมอทุก 3-6 เดือน จึงมีความจำเป็นและสามารถติดต่อขอรับการบริการหรือปรึกษาได้จากหน่วยงานสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและอำเภอท้องที่
2.3 การก่อกองไฟใต้พื้นโรงเรือน ส่วนใหญ่เกษตรกรมีวัตถุประสงค์เพื่อไล่ยุงและให้แพะมีความอบอุ่นช่วงเวลาอากาศหนาวเย็น แต่สิ่งที่เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะอาจลืมนึกถึงไปว่า ควันไฟนอกจากจะไล่ยุงและให้ความอบอุ่นแก่แพะแล้ว ควันไฟยังส่งผลก่อให้เกิดการระคายเคืองเยื้อเมือกที่ตา ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจส่งผลเช่นเดียวกับ ข้อ 1.1หากโรงเรือนไม่มีการระบายถ่ายเทอากาศที่ดีพอ ดังนั้นถ้าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ความอบอุ่นแก่แพะ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนมาใช้โคมไฟที่ใช้กกลูกสัตว์ เช่น ที่ใช้ในลูกไก่ หรือลูกสุกร ในที่อากาศหนาวเย็น ฝนตกชุก หรือความชื้นสูง เป็นต้น
3.การรักษา ในการรักษาแพะเป็นหวัดเราควรมองหาสาเหตุเบื้องต้นว่าแพะป่วยเป็นหวัดเกิดจากอะไร? หากการจัดการในส่วนของโรงเรือนในข้อที่ 1 หรือการจัดการอื่นๆในข้อที่ 2 ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่ดีพอ การรักษาแพะเป็นหวัดโดยการใช้ยารักษาก็จะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งเรามักพบเสมอว่า แพะหายป่วยแล้วจะกลับมาเป็นใหม่ , แพะป่วยเป็นหวัดเรื้อรัง หรือบางตัวก็ตายไปเลย ดังนั้น การรักษาโดยยาควบคุมติดเชื้อกับการจัดการโรงเรือนที่ดี ข้อที่ 1และการจัดการเรื่องอื่นข้อที่ 2 ให้ดี มีส่วนช่วยให้การรักษาประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น.
ของผมถ้าแพะผมเป็นผมใช้ยาตัวนี้อยู่ครับขวดละ 65 บาท
โนมิโฟน 50 % - Nominfone50 % ยาฉีดสำหรับสัตว์
| |||||||||||||
|
ขออนุญาติขโมยซีลท่านนายทะเบียนเดชานะครับ555
ยินดีต้อนรับสู่ สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย (http://www.thaigoatsheep.com/) | Powered by Discuz! X2 |