ข้อบ่งใช้ :
|
| ใช้เอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ ในการรักษาโรค BRD (Shipping fever, ปอดอักเสบ) |
ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ Mannheimia hemolytica, P. multocida และ H. somnus นอกจากนี้ยังใช้เอ็คสีด |
น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ ในการควบคุมโรคของระบบทางเดินหายใจในโคที่มีความเสี่ยงสูงที่จะ |
เป็นโรค BRD ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ Mannheimia hemolytica, P. multocida และ H. somnus |
|
ขนาดยา :
กรณีรักษา
|
| ฉีดยา 1 เข็ม ครั้งเดียวเข้าใต้ผิวหนังตรงบริเวณส่วนกลางของด้านหลังใบหู หรือที่ด้านหลังใบหูบริเวณที่ |
| ติดกับหัว (ฐานของใบหู) ของโค ในขนาดเทียบเท่าเซฟติโอเฟอร์ 3.0 มก./ปอนด์ (ุ6.6 มก./กก.) |
| [ ยา 1.5 มล.ต่อน้ำหนักตัว 100 ปอนด์ ] |
|
|
| สัตว์ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อการรักษาภายใน 3 - 5 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรทำการวินิจฉัยอีกครั้ง |
| |
กรณีควบคุม |
| ฉีดยา 1 เข็ม เข้าใต้ผิวหนังตรงบริเวณส่วนกลางของด้านหลังใบหู หรือที่ด้านหลังใบหูบริเวณที่ติดกับหัว |
| (ฐานของใบหู) ของโคเนื้อ และโคนมที่ไม่ได้รีดนม ในขนาดเทียบเท่าเซฟติโอเฟอร์ 3.0 มก./ปอนด์ |
(ุ6.6 มก./กก.) [ ยา 1.5 มล.ต่อน้ำหนักตัว 100 ปอนด์ ] |
|
จากการศึกษาทางคลีนิก พบว่าการฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ จะมีประสิทธิภาพใน |
การควบคุมโรคของระบบทางเดินหายใจในโคเนื้อ และโคนมที่ไม่ได้รีดนม ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค BRD |
ปัจจัยต่อไปนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าลูกโคที่มาถึงคอก มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค BRD: |
| - | เป็นโคที่มาจากหลายแหล่ง | | - | และ/หรือ โคที่ถูกส่งเป็นระยะเวลานาน (ซึ่งอาจรวมถึงมีจุดหยุดพักหลายที่) | | - | และ/หรือ อุณหภูมิแวดล้อมจากจุดเริ่มต้นการเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง มีการ | | | เปลี่ยนแปลงมากกว่า 30 ํF | | - | และ/หรือ สัตว์สัมผัสกับสภาพอากาศที่เปียกและเย็นมากอย่างต่อเนื่อง | | - | และ/หรือ โคเกิดความกลัวหรือพบกับขั้นตอนต่างๆ เมื่อมาถึงคอกซึ่งทำให้เครียดมาก | | | เช่น ตอน ตัด เขา |
|
|
ตารางที่ 1. ขนาดยาที่ใช้
|
| น้ำหนัก (ปอนด์) | การรักษาที่ขนาด 3 มก./ปอนด์ (มล.) | 100 | 1.5 | 200 | 3.0 | 300 | 4.5 | 400 | 6.0 | 500 | 7.5 | 600 | 9.0 | 700 | 10.5 | 800 | 12.0 | 900 | 13.5 | 1000 | 15.0 | 1100 | 16.5 | 1200 | 18.0 | 1300 | 19.5 | 1400 | 21.0 | 1500 | 22.5 | 1600 | 24.0 | 1700 | 25.5 | 1800 | 27.0 | 1900 | 28.5 | 2000 | 30.0 |
|
| |
การฉีดที่ส่วนกลางของใบหู
|
| การฉีด |
| - | เขย่าขวดก่อนใช้ โปรดอ่านเอกสารกำกับยาก่อนฉีดเอ็คสีด น้ำยาปราศจากเชื้อ |
| เข้าใต้้ผิวหนังที่ด้านหลังของใบหูโค | - | ฉีดยา 1 เข็มเข้าใต้ผิวหนังที่ส่วนกลางด้านหลังของใบหู หลีกเลี่ยงการฉีดเข้า |
| เส้นเลือดทุกชนิด (ดูรูปที่ 2 และ 3) | - | แทงเข็มฉีดยาโดยเลี่ยงเส้นเลือด บริเวณที่เคยฝังยา ป้ายติดใบหู (ear tag) หรือ |
| รูที่เจาะไว้ ห้ามฉีดเข้าเส้น | - | ฉีดยาในกระบอกฉีดยาให้หมด | - | ถ้าฉีดยาถูกต้อง จะเห็นชั้นใต้ผิวหนังพองออก (จากตัวยาเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอน |
| ปราศจากเชื้อ ที่ฉีดเข้าไป) | - | เมื่อถอนเข็มออก ใช้นิ้วมือกดตรงรอยฉีดยา และนวดในทิศทางไปที่ฐานของใบหู |
|
| |
| | รูปที่ 2. การฉีดเอ็ดสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าใต้ผิวหนัง
บริเวณส่วนกลางของด้านหลังของใบหู |
|
| |
| | รูปที่ 3. ภาพวาดแสดงตำแหน่งโดยประมาณของเส้นเลืิอดแดงสำคัญ
ที่อยู่ด้านหลังของใบหู และตำแหน่งที่แนะนำให้แทงเข็ม การฉีดเอ็คสีด
น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าเส้นเลือดของใบหูอาจทำให้สัตว์ตายได้ |
|
| |
การฉีดยาเข้าที่ฐานของใบหู |
| - | เขย่าขวดก่อนใช้ โปรดอ่านเอกสารกำกับยาก่อนฉีดเอ็คสีด น้ำยาปราศจากเชื้อ |
| เข้าใต้้ผิวหนังที่ด้านหลังใบหูบริเวณที่ติดกับหัว (ฐานของใบหู) | - | ถือกระบอกฉีดยา และเข็มฉีดยาให้อยู่ในตำแหน่งด้านหลังของใบหู ให้ปลายเข็ม |
| ชี้ไปในทิศทางเดียวกับเส้นสมมุติที่ลากจากด้านหลังฐานของใบหู ไปยังตาฝั่ง |
| ตรงกันข้าม (ดูรูปที่ 4 และ 5) | - | แทงเข็มจากมุมดังกล่าวผ่านผิวหนังด้านหลังของใบหูส่วนที่ติดกับหัว (ฐานของใบหู) |
| (ดูรูปที่ 4) | - | ฉีดยาในกระบอกฉีดยาให้หมด | - | ห้ามฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าที่คอ |
|
| |
| | รูปที่ 4. การฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าใต้ผิวหนัง
ที่ด้านหลังใบหูบริเวณที่ติดกับหัว (ฐานของใบหู) |
|
| |
| | รูปที่ 5. ตำแหน่งการฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าใต้
ผิวหนังด้านหลังใบหูบริเวณที่ติดกับหัว (ฐานของใบหู) |
|
| |
ข้อห้าม |
| เช่นเดียวกับยาทุกชนิด ห้ามใช้เอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ ในสัตว์ที่เคยพบว่ามีความไวเกิน |
| ต่อตัวยานี้ |
| |
คำเตือน |
| ใช้ในสัตว์เท่านั้น ห้ามใช้ในมนุษย์ เก็บให้พ้นมือเด็ก |
| |
| เพนนิซิลลิน และเซฟาโลสปอรินสามารถทำให้เกิดการแพ้ยาในสัตว์ที่ไวต่อยานี้ได้ การสัมผัสเฉพาะีที่ต่อยา |
| ด้านจุลชีพเหล่านี้ รวมถึงเซฟติโอเฟอร์ อาจทำให้เกิดการแพ้ยาแบบอ่อนๆ จนถึงรุนแรงในสัตว์บางตัวได้ |
| การสัมผัสยาเป็นเวลานานหรือซ้ำๆ อาจทำให้เกิดความไวต่อสิ่งกระตุ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสยานี้โดยตรง |
| กับผิวหนัง ตา ปาก และเสื้อผ้า สำหรับผิวหนังอาจหลีกเลี่ยงโดยการใส่ถุงมือยาง |
| |
| คนที่มีประวัติแพ้ยา เพนนิซิลลิน และเซฟาโลสปอริน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสยานี้ |
| |
| ในกรณีที่ยาเข้าตาโดยบังเอิญ ให้ล้างตาด้วยน้ำเป็นเวลา 15 นาที ถ้าสัมผัสผิวหนังโดยบังเอิญให้ล้างด้วย |
| น้ำและสบู่ ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนยาออก ถ้าเกิดอาการแพ้ยา (เช่น ผื่นแดง ลมพิษ หายใจลำบาก) ให้พบแพทย์ |
| ทันที |
|
|
| เอกสารเกี่ยวกับข้อมูลความปลอดภัย จะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับวิชาชีพ การ |
| รายงานฤทธิ์ที่ไม่พึงประสงค์ในสัตว์ หรือการขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลความปลอดภัย ให้โทรศัพท์ไปที่ |
| 1-800-366-5288 |
| |
| การฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าเส้นเลือดแดงของใบหู อาจทำให้เกิดการตายอย่าง |
| กะทันหันในสัตว์ได้ |
| |
คำเตือนเรื่องสารตกค้าง |
| - | เมื่อใช้ตามที่ระบุในฉลากยา โดยฉีดเพียงครั้งเดียว จะมีระยะหยุดยาก่อนส่งโรงฆ่า |
| 13 วัน | - | เมื่อใช้ตามที่ระบุในฉลากยา โดยฉีดเพียงครั้งเดียว ไม่มีระยะหยุดรีดนมสำหรับ |
| ผลิตภัณฑ์นี้ | - | การใช้ยาในขนาดมากกว่าขนาดเทียบเท่าเซฟติโอเฟอร์ 6.6 มก./กก. หรือฉีดใน |
| ตำแหน่งที่ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารกำกับยานี้ (ฉีดเข้าใต้ผิวหนังที่คอหรือเข้ากล้ามเนื้อ) |
| อาจทำให้เกิดการตกค้างที่ผิดกฎหมายได้ | - | ไม่มีการศึกษาระยะหยุดยาของผลิตภัณฑ์นี้ ในลูกโคก่อนกินหญ้า | - | ห้ามใช้ในลูกโคที่จะเลี้ยงใช้ทำเป็น veal |
|
| |
ข้อควรระวัง |
| หลังจากฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังบริเวณส่วนกลางใบหูด้านหลัง จะพบใบหูหนาตัวได้และมีอาการบวม (จากยาที่ |
| เข้าสู่เซลล์แบบไม่ติดเชื้อ) เช่นเดียวกับการฉีดยาอื่นๆ อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหลังจากฉีดตรงบริเวณ |
| ที่ฉีดยาได้ ทำให้เกิดฝี ซึ่งจะลดการติดเชื้อนี้ได้โดยใช้สุขลักษณะที่ดีในการฉีด |
|
|
| หลังจากฉีดยาเข้าที่ด้านหลังใบหูบริเวณที่ติดกับหัว (ฐานของใบหู) อาจเกิดสีซีดและมีการอักเสบมากกว่า |
| 10 วัน หลังจากฉีดยานี้ ทำให้ต้องตัดแต่งเนื้อส่วนที่ใช้บริโภคได้ที่โรงฆ่า การฉีดยามากกว่า 20 มล. ที่ส่วน |
| กลางของใบหู อาจทำให้เกิดแผลเปิดในโคบางตัว |
| |
ฤทธิ์ข้างเคียงไม่พึงประสงค์ |
| การฉีดเอ็คสีด น้ำยาแขวนตะกอนปราศจากเชื้อ เข้าเส้นเลือดแดงของใบหู อาจทำให้เกิดการตายอย่าง |
| กะทันหันในโค ระหว่างที่มีการศึกษาทางคลีนิกมีอุบัติการณ์ของการตายกะทันหัน ( 9 ตัวจากโคประมาณ |
| 6,000 ตัว) ซึ่งการตายของโค 3 ตัว ได้รับการยืนยันว่าเป็นผลมาจากการฉีดยาเข้าเส้นเลือดแดงโดยไม่ได้ |
| ตั้งใจ ไม่พบฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ในระบบอื่นๆ ทั้งจากยาปฏิชีวนะ หรือจากสูตรยา ระหว่างการศึกษาความ |
| ปลอดภัยในสัตว์เป้าหมาย และในทางคลีนิก |
|
|